วันพฤหัสบดีที่ 18 ธันวาคม พ.ศ. 2557
Computer Project
โครงการกับ Arduino และการประมวลผล ทำให้รถที่ใช้คอมพิวเตอร์ควบคุมการใช้ Duemilanove Arduino ใช้ Arduino Duemilanove สื่อสารกับเครื่องคอมพิวเตอร์โดยใช้การประมวลผล ผมใช้แคลิฟอร์เนีย 10m ของสาย USB
วันพฤหัสบดีที่ 11 ธันวาคม พ.ศ. 2557
ตัวอย่างสื่อการเรียนรู้
สื่อนำเสนอประกอบการบรรยาย (Power Point)
โปรแกรม Microsoft PowerPoint เป็นโปรแกรมที่ช่วยในการจัดทำสไลด์เพื่อนำไปเสนอหรือฉายให้บุคคลทั่วไปได้ดู ในปัจจุบันโปรแกรม PowerPoint ได้เข้ามามีบทบาทกับการนำเสนอเป็นอย่างมากไม่ว่าจะใช้นำเสนองาน การประชุม สัมมนา ตลอดจนถึงแวดวงการศึกษาก็นำมาใช้อย่างแพร่หลาย เช่น อาจารย์ใช้เป็นสื่อช่วยสอน นักศึกษาใช้สำหรับนำเสนองานกับอาจารย์ เป็นต้น
จุดเด่นของโปรแกรม PowerPoint ก็คือสามารถสร้างงานที่จะนำเสนอได้อย่างง่ายดาย สามารถใส่ภาพ เสียง ตลอดจนภาพเคลื่อนไหวในลักษณะวิดีโอลงในสไลด์ จึงเป็นสื่อที่นำเสนอข้อมูลได้แบบมัลติมีเดีย ทำให้งานนำเสนอด้วย โปรแกรม Microsoft PowerPoint ของคุณน่าชม น่าฟัง และมีความน่าสนใจมากขึ้น
ส่วนประกอบของโปรแกรม PowerPoint
พื้นที่การทำงานหลักของ PowerPoint จะมีองค์ประกอบต่างๆ เช่น พื้นที่การสร้างสไลด์ เครื่องมือสร้าง/แก้ไข และส่วนประกอบอื่นๆ ดังนี้
ความสามารถพื้นฐานของpowerpoint
- สำหรับนำเสนอข้อมูลในรูปแบบของ ข้อความ รูปภาพ เสียง ภาพเคลื่อนไหว
- สามารถตกแต่งตัวอักษรให้สวยๆ ด้วย?WordArt ที่พิเศษกว่า PowerPoint 2003?
- การทำงานจะแบ่งออกเป็นหน้าๆ แต่ละหน้าเรียกว่า Slide (คลิกแท็ปเมนู Home เลือก New Slide)
- การสร้างจะมี Slide Layout ช่วยในการออกแบบและใส่ข้อมูล? (คลิกแท็ปเมนู Home เลือก Layout)
- รูปแบบหรือ Themes จะมี Design สำหรับรูป ช่วยให้สร้าง Presentation ได้สะดวกมากขึ้น (คลิกแท็ปเมนูDesign)
- รองรับไฟล์ข้อมูลประเภทต่างๆ เช่น ตารางจาก Microsoft Excel เป็นต้น
- รองรับภาพเคลื่อนไหวเช่น? Flash, Gif Animation, Video เป็นต้น
- สามารถสั่งรันแบบอัตโนมัติได้
- สามารถสั่งพิมพ์ในรูปแบบต่างๆ เช่น พิมพ์แบบ Slide, Handout เป็นต้น
- ไฟล์ที่จะสร้างจาก Powerpoint 2007 มีนามสกุล .PPTX ถ้าเป็นเวอร์ชั่นเก่า จะมีนามสกุล .PPT
- ถ้าไฟล์ที่สร้างเป็นไฟล์ .PPSX จะสามารถรับ Presentation แบบอัตโนมัติได้]
ไฮเปอร์บุ๊ค (Hyperbook)
หนังสืออิเล็กทรอนิกส์ คือ หนังสืออิเล็กทรอนิกส์ แต่หนังสืออิเล็กทรอนิกส์ก็คือ หนังสือที่เก็บอยู่ในรูปแบบของอิเล็กทรอนิกส์ หรือเก็บไว้อยู่ในแบบของไฟล์ โปรแกรมส่วนมากที่เข้าใจกันคือ หนังสือที่เก็บในอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์โดยไม่ต้องใช้กระดาษ และมีการสร้างจากคอมพิวเตอร์ และสามารถอ่านได้จากอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์อย่าง คอมพิวเตอร์ โน้ตบุ๊ก พีดีเอ(Personal Digital Assistant) Palm และ PocketPC หรือกระทั่งอ่านได้จากโทรศัพท์มือถือบางรุ่น
E-book เป็นหนังสืออิเล็กทรอนิกส์ที่จะเริ่มเข้ามามีบทบาทมากขึ้น ด้วยความสะดวกสบายของทั้งการสร้าง E-book ความสะดวกในการพกพา ขนาดที่เล็ก และสามารถอ่านได้ทุกที่ทุกเวลาที่มีอุปกรณ์พกพาที่สามารถอ่าน E-book ได้ สามารถสร้างให้ E-book นอกจากจะมีสีสันสวยงามเพื่อง่ายต่อการอ่าน และทำความเข้าใจแล้ว ยังสามารถใส่เสียง ภาพเคลื่อนไหว สร้างสารบัญ (Link) หรือการคลิกเพื่อส่ง E-Mail ไปยังผู้เขียน หรือ E-Mail ใน E-book ก็ได้
ข้อดีและข้อจำกัดของหนังสืออิเล็กทรอนิกส์
ข้อดีของหนังสืออิเล็กทรอนิกส์มีข้อดีดังต่อไปนี้
1. เป็นสื่อที่รวมเอาจุดเด่นของสื่อแบบต่างๆ มารวมอยู่ในสื่อตัวเดียว คือ สามารถแสดงภาพ แสง เสียง ภาพเคลื่อนไหว และการมีปฏิสัมพันธ์กับผู้ใช้
2 .ช่วยให้ผู้เรียนเกิดพัฒนาการเรียนรู้และเข้าใจเนื้อหาวิชาได้เร็วขึ้น
1. เป็นสื่อที่รวมเอาจุดเด่นของสื่อแบบต่างๆ มารวมอยู่ในสื่อตัวเดียว คือ สามารถแสดงภาพ แสง เสียง ภาพเคลื่อนไหว และการมีปฏิสัมพันธ์กับผู้ใช้
2 .ช่วยให้ผู้เรียนเกิดพัฒนาการเรียนรู้และเข้าใจเนื้อหาวิชาได้เร็วขึ้น
3. ครูสามารถใช้หนังสืออิเล็กทรอนิกส์ในการชักจูงผู้เรียนในการอ่าน,การเขียน,การฟังและการพูดได้
4 . มีความสามารถในการออนไลน์ผ่านเครือข่ายและเชื่อมโยงไปสู่โฮมเพจและเว็บไซต์ต่างๆอีกทั้งยังสามารถอ้างอิงในเชิงวิชาการได้
5 . หากหนังสืออิเล็กทรอนิกส์ออนไลน์ผ่านเครือข่ายอินเตอร์เน็ตหรืออินทราเน็ตจะทำให้การกระจายสื่อทำได้อย่างรวดเร็ว และกว้างขว้างกว่าสื่อที่อยู่ในรูปสิ่งพิมพ์
5 . หากหนังสืออิเล็กทรอนิกส์ออนไลน์ผ่านเครือข่ายอินเตอร์เน็ตหรืออินทราเน็ตจะทำให้การกระจายสื่อทำได้อย่างรวดเร็ว และกว้างขว้างกว่าสื่อที่อยู่ในรูปสิ่งพิมพ์
ด้านการเรียนการสอนมากมายแต่ก็ยังมีข้อจำกัดด้วยดังต่อไปนี้
1. คนไทยส่วนใหญ่ยังคงชินอยู่กับสื่อที่อยู่ในรูปกระดาษมากกว่าอีกทั้งหนังสืออิเล็กทรอนิกส์ยังไม่สมารถใช้งานได้งายเมื่อเทียบกับสื่อสิ่งพิมพ์ และความสะดวกในการอ่านก็ยังน้อยกว่ามาก
2 .หากโปรแกรมสื่อมีขนาดไฟล์ใหญ่มากๆ จะทำให้การเปลี่ยนหน้าจอมีความล่าช้า
3. ผู้ใช้สื่ออาจจะไม่ใช่ผู้สร้างสื่อฉะนั้นการปรับปรุงสื่อจึงทำได้ยากหากผู้สอนไม่มีความรู้ด้านโปรแกรมคอมพิวเตอร์
4.ใช้เวลาในการออกแบบมาก เพราะต้องใช้ทักษะในการออกแบบเป็นอย่างดี เพื่อให้ได้สื่อที่มีคุณภาพ
ไฮเปอร์เท็กซ์ (Hypertext)
หมายถึง ข้อความหรือกลุ่มของข้อความที่ถูกเชื่อมโยงเข้าด้วยกันโดยมีการนำเสนอแบบปฏิสัมพันธ์ โดยการนำข้อความที่ใช้ มาเป็นจุดเชื่อมโยง ซึ่งจะมีลักษณะเด่นกว่าข้อความอื่น เช่น การขีดเส้นใต้ การเน้นด้วยสี ตัวหนา หรือตัวเอียง เป็นต้น
ประโยชน์ของระบบไฮเปอร์เท็กซ์
นอกจากจะสามารถบริหารจัดการ เชื่อมโยงและติดต่อข้อมูลเพื่อสื่อความหมายอย่างมีปฏิสัมพันธ์ในสภาพแวดล้อมที่เหมาะสมและยังสามารถทำให้ผู้ใช้เลือกใช้เส้นทางที่สะดวกและรวดเร็ว ไม่ว่าจะไปข้างหน้าหรือย้อนกลับในเส้นทางเดิมได้และยังสามารถเข้าถึงข้อมูลได้ อย่างสะดวกและรวดเร็ว ทั้งนี้เนื่องจากการทำงานในระบบไฮเปอร์เท็กซ์จะมีการเชื่อมโยงที่ไม่เป็นแนวเส้นตรง เป็นต้น
เว็บไซต์การเรียนรู้
เว็บไซต์นี้เป็นเว็บที่ดีมากอีกเว็บหนึ่งที่สามารถเรียนภาษาไทย เว็บนี้มีเนื้อหาอยู่ 3 เร่องหลัก คือ 1) เรื่องเสียง เช่น เสียงสระ เสียงพยัญชนะ เสียงวรรณยุกต์ และเสียงหนักเบา 2) อักษรไทย เช่น อักษรเดี่ยว-คู่ คำเป็นคำตาย 3) ชนิดของคำ เช่น คำนาม คำกริยา คำบุพบท นอกจากนั้นยังมีเกร็ดความรู้เรื่องวันภาษาไทยอีกด้วย เว็บไซต์นี้ เหมาะสำหรับ นักเรียนชั้นประถมศึกษาตอนปลายจนถึงมัธยมศึกษาตอนปลาย
https://sites.google.com/site/tarakorndew/home/naeana-websit-thangkar-suksa
วันพฤหัสบดีที่ 13 พฤศจิกายน พ.ศ. 2557
โครงงานพัฒนาสื่อเพื่อการศึกษา
โครงงานพัฒนาสื่อเพื่อการศึกษา (Educational Media)
เป็นโครงงานทีใช้คอมพิวเตอร์ในการผลิตสื่อเพื่อการศึกษา โดยการสร้างโปรแกรมบทเรียน หรือหน่วยการเรียน ซึ่งอาจจะต้องมีภาคแบบฝึกหัด บททบทวนและคำถามคำตอบไว้พร้อม ผู้เรียนสามารถเรียนแบบรายบุคคลหรือรายกลุ่ม การสอนโดยใช้คอมพิวเตอร์ช่วยนี้ ถือว่าเครื่องคอมพิวเตอร์เป็นอุปกรณ์การสอน ไม่ใช่เป็นครูผู้สอน ซึ่งอาจเป็นการพัฒนาบทเรียนแบบ Online ให้นักเรียนเข้ามาศึกษาด้วยตนเองก็ได้ โครงงานประเภทนี้สามารถพัฒนาขึ้นเพื่อใช้ประกอบการสอนในวิชาต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นสาขาคอมพิวเตอร์ วิชาคณิตศาสตร์ วิชาวิทยาศาสตร์ วิชาสังคม วิชาชีพอื่น ๆ ฯลฯ โดยนักเรียนอาจคัดเลือกหัวข้อที่นักเรียนทั่วไปที่ทำความเข้าใจยาก มาเป็นหัวข้อในการพัฒนาโปรแกรมบทเรียน ตัวอย่าง เช่น โปรแกรมสอนวิธีการใช้งาน ระบบสุริยะจักรวาล โปรแกรมแบบทดสอบวิชาต่าง ๆ
ลักษณะเด่นของโครงงานประเภทนี้ คือ เป็นโครงงานที่ใช้คอมพิวเตอร์ในการผลิตสื่อเพื่อการศึกษา โดยการสร้างโปรแกรมบทเรียนหรือหน่วยการเรียน ซึ่งอาจจะต้องมีภาคแบบฝึกหัด บททบทวน และคำถามคำตอบไว้พร้อม ผู้เรียนสามารถเรียนแบบรายบุคคลหรือรายกลุ่มการสอน โดยใช้คอมพิวเตอร์ช่วยสอนนี้ ถือว่าคอมพิวเตอร์เป็นอุปกรณ์การสอน ซึ่งอาจเป็นการพัฒนาบทเรียนแบบออนไลน์ ให้ผู้เรียนเข้ามาศึกษาด้วยตนเองก็ได้ โครงงานประเภทนี้สามารถพัฒนาขึ้นเพื่อใช้ประกอบการสอนในวิชาต่างๆ โดยผู้เรียนอาจคัดเลือกเนื้อหาที่เข้าใจยาก มาเป็นหัวข้อในการพัฒนาสื่อเพื่อการศึกษา ตัวอย่างโครงงาน เช่น การเคลื่อนที่แบบโปรเจ็กไตล์ ระบบสุริยจักรวาล ตัวแปรต่างๆ ที่มีผลต่อการชำกิ่งกุหลาบ หลักภาษาไทย และสถานที่สำคัญของประเทศไทย เป็นต้น
เป็นโครงงานทีใช้คอมพิวเตอร์ในการผลิตสื่อเพื่อการศึกษา โดยการสร้างโปรแกรมบทเรียน หรือหน่วยการเรียน ซึ่งอาจจะต้องมีภาคแบบฝึกหัด บททบทวนและคำถามคำตอบไว้พร้อม ผู้เรียนสามารถเรียนแบบรายบุคคลหรือรายกลุ่ม การสอนโดยใช้คอมพิวเตอร์ช่วยนี้ ถือว่าเครื่องคอมพิวเตอร์เป็นอุปกรณ์การสอน ไม่ใช่เป็นครูผู้สอน ซึ่งอาจเป็นการพัฒนาบทเรียนแบบ Online ให้นักเรียนเข้ามาศึกษาด้วยตนเองก็ได้ โครงงานประเภทนี้สามารถพัฒนาขึ้นเพื่อใช้ประกอบการสอนในวิชาต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นสาขาคอมพิวเตอร์ วิชาคณิตศาสตร์ วิชาวิทยาศาสตร์ วิชาสังคม วิชาชีพอื่น ๆ ฯลฯ โดยนักเรียนอาจคัดเลือกหัวข้อที่นักเรียนทั่วไปที่ทำความเข้าใจยาก มาเป็นหัวข้อในการพัฒนาโปรแกรมบทเรียน ตัวอย่าง เช่น โปรแกรมสอนวิธีการใช้งาน ระบบสุริยะจักรวาล โปรแกรมแบบทดสอบวิชาต่าง ๆ
ลักษณะเด่นของโครงงานประเภทนี้ คือ เป็นโครงงานที่ใช้คอมพิวเตอร์ในการผลิตสื่อเพื่อการศึกษา โดยการสร้างโปรแกรมบทเรียนหรือหน่วยการเรียน ซึ่งอาจจะต้องมีภาคแบบฝึกหัด บททบทวน และคำถามคำตอบไว้พร้อม ผู้เรียนสามารถเรียนแบบรายบุคคลหรือรายกลุ่มการสอน โดยใช้คอมพิวเตอร์ช่วยสอนนี้ ถือว่าคอมพิวเตอร์เป็นอุปกรณ์การสอน ซึ่งอาจเป็นการพัฒนาบทเรียนแบบออนไลน์ ให้ผู้เรียนเข้ามาศึกษาด้วยตนเองก็ได้ โครงงานประเภทนี้สามารถพัฒนาขึ้นเพื่อใช้ประกอบการสอนในวิชาต่างๆ โดยผู้เรียนอาจคัดเลือกเนื้อหาที่เข้าใจยาก มาเป็นหัวข้อในการพัฒนาสื่อเพื่อการศึกษา ตัวอย่างโครงงาน เช่น การเคลื่อนที่แบบโปรเจ็กไตล์ ระบบสุริยจักรวาล ตัวแปรต่างๆ ที่มีผลต่อการชำกิ่งกุหลาบ หลักภาษาไทย และสถานที่สำคัญของประเทศไทย เป็นต้น
ตัวอย่าง โครงงานพัฒนาสื่อเพื่อการศึกษา
โปรแกรมฝึกอ่านออกเสียงภาษาอังกฤษผู้พัฒนา เด็กหญิงวรรณรวัส ยินดีเดช
อาจารย์ที่ปรึกษา อาจารย์ศรา หรูจิตตวิวัฒน์
สถานศึกษา โรงเรียนเซนต์ฟรังซิสซาเวียร์คอนแวนต์ กรุงเทพฯ
อาจารย์ที่ปรึกษา อาจารย์ศรา หรูจิตตวิวัฒน์
สถานศึกษา โรงเรียนเซนต์ฟรังซิสซาเวียร์คอนแวนต์ กรุงเทพฯ
โปรแกรมสำนวนไทยพาสนุก
ผู้พัฒนา เด็กหญิงจิราพร แจ้งไพร และเด็กหญิงกนิษฐา สุริเมือง
อาจารย์ที่ปรึกษา อาจารย์วิรุบล จันตา
สถานศึกษา โรงเรียนภัทรวิทยา จ.ตาก
ผู้พัฒนา เด็กหญิงจิราพร แจ้งไพร และเด็กหญิงกนิษฐา สุริเมือง
อาจารย์ที่ปรึกษา อาจารย์วิรุบล จันตา
สถานศึกษา โรงเรียนภัทรวิทยา จ.ตาก
โปรแกรมเกมเพื่อความบันเทิง War of Oracle
ผู้พัฒนา นายปรัชญา ไพศาลวิภัชพงศ์ นายณัชฌา พาณิชย์ชะวงศ์ และนายสรรศิลป์ ตั้งนิรันดร์กุล
อาจารย์ที่ปรึกษา นายคมณัษฐ์ แซ่เฮ้ง
สถานศึกษา โรงเรียนอัสสัมชัญ
ผู้พัฒนา นายปรัชญา ไพศาลวิภัชพงศ์ นายณัชฌา พาณิชย์ชะวงศ์ และนายสรรศิลป์ ตั้งนิรันดร์กุล
อาจารย์ที่ปรึกษา นายคมณัษฐ์ แซ่เฮ้ง
สถานศึกษา โรงเรียนอัสสัมชัญ
โปรแกรมเกมทศกัณฑ์
ผู้พัฒนา เด็กหญิงวรรรวัส ยินดีเดช และเด็กหญิง วริษฐา นามศิริพงศ์พันธุ์
อาจารย์ที่ปรึกษา อาจารย์ศรา หรูจิตตวิวัฒน์
สถานศึกษา โรงเรียนเซนต์ฟรังซีสซาเวียร์ คอนแวนต์
ผู้พัฒนา เด็กหญิงวรรรวัส ยินดีเดช และเด็กหญิง วริษฐา นามศิริพงศ์พันธุ์
อาจารย์ที่ปรึกษา อาจารย์ศรา หรูจิตตวิวัฒน์
สถานศึกษา โรงเรียนเซนต์ฟรังซีสซาเวียร์ คอนแวนต์
วันพฤหัสบดีที่ 30 ตุลาคม พ.ศ. 2557
วันพุธที่ 17 กันยายน พ.ศ. 2557
วันพฤหัสบดีที่ 4 กันยายน พ.ศ. 2557
วันพฤหัสบดีที่ 21 สิงหาคม พ.ศ. 2557
การเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต
การเชื่อมต่อกับอินเตอร์เน็ต
อินเตอร์เน็ต คือ อภิมหาเครือข่ายโลกที่มีคอมพิวเตอร์เชื่อมต่อกัน ซึ่งการเชื่อมต่อนั้น เปรียบเสมือนกับใยแมงมุมโดยจุดตัดของใยแมงมุมจะเสมือนเป็นคอมพิวเตอร์แต่ละตัวที่โยงใยกันเป็นเครือข่าย ซึ่งการเชื่อมต่อบนรอินเตอร์เน็ตนั้นจะใช้มาตรฐานการเชื่อมต่อที่เรียกว่า TCP/IP (TransmissionControlProtocol/InternetProtocol) โดย Transmission Control
Protocol จะเป็นโพรโตคอลที่ใช้ในการส่งผ่านข้อมูลบนสายต่างๆ เช่น สายโทรศัพท์ สายวงจรพิเศษ และ Internet Protocolก็คือโพรโตคอลที่ใช้ในการสื่อสารบนอินเตอร์เน็ต และด้วยโพรโตคอลTCP/IPนี้เองทำให้อินเตอร์เน็ตได้รับความนิยมอย่างสูง เนื่องจากคอมพิวเตอร์ที่เชื่อมต่ออินเตอร์เน็ตทั้งโลกนี้พูดภาษเดียวกันก็คือ TCP/IP นั่นเอง
ประเภทของการเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ต
การเชื่อมต่อระบบอินเตอร์เน็ตนั้น ขึ้นอยู่กับความต้องการในการใช้งานเป็นสำคัญ เช่นใช้อินเตอร์เน็ตเพื่อค้นหาข้อมูลที่บ้าน ใช้ในเชิงธุรกิจ ใช้เพื่อความบันเทิง หรือใช้ภายในองค์กรขนาดใหญ่ ดังนั้นการเชื่อมต่อระบบอินเตอร์เน็ตจึงมีความแตกต่างกันซึ่งขึ้นอยู่กับปัจจัยด้านความต้องการ รวมทั้งเงินทุนที่จะใช้ในการติดตั้งระบบด้วย ปัจจุบันการเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ตที่นิยมใช้มี 5 ลักษณะ คือ
1. การเชื่อมต่อแบบ Dial Up
เป็นการเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ตที่เคยได้รับความนิยมในยุคแรก ๆ โดยใช้เครื่องคอมพิวเตอร์บุคคล กับสายโทรศัพท์บ้านที่เป็นสายตรงต่อเชื่อมเข้ากับโมเด็ม (Modem) ก็สามารถใช้งานอินเตอร์เน็ตได้แล้ว ผู้ใช้บริการอินเตอร์เน็ตต้องทำการติดต่อกับผู้ให้บริการเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ตผ่านหมายเลขโทรศัพท์บ้าน โดยผู้ให้บริการเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ตจะกำหนดชื่อผู้ใช้ (Username) และรหัสผ่าน (Password) มาให้เพื่อเข้าใช้บริการอินเตอร์เน็ต
ข้อดี ของการเชื่อมต่อแบบ Dial Up คือ
อุปกรณ์มีราคาถูก
การติดตั้งง่าย
การเคลื่อนย้ายอุปกรณ์ทำได้ง่าย
ข้อเสีย คืออัตราการรับส่งข้อมูลค่อนข้างต่ำเพียงไม่เกิน 56 kbit (กิโลบิต) ต่อวินาที
2. การเชื่อมต่อแบบ ISDN(Internet Services Digital Network)
เป็นการเชื่อมต่อที่คล้ายกับแบบ Dial Up เพราะต้องใช้โทรศัพท์และโมเด็มในการเชื่อมต่อ ต่างกันตรงที่ระบบโทรศัพท์เป็นระบบความเร็วสูงที่ใช้เทคโนโลยีระบบดิจิตอล (Digital) และต้องใช้โมเด็มแบบ ISDN Modem ในการเชื่อมต่อ ดังนั้นการเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ตแบบ ISDN จะต้องคำนึงถึงสิ่งเหล่านี้ คือ
-ต้องติดต่อผู้ให้บริการอินเตอร์เน็ต (ISP) ที่ให้บริการการเชื่อมต่อแบบ ISDN
-การเชื่อมต่อต้องใช้ ISDN Modem ในการเชื่อมต่อ
-ต้องตรวจสอบว่าสถานที่ที่จะใช้บริการนี้ อยู่ในอาณาเขตที่ใช้บริการ ISDN ได้หรือไม่
ข้อดี คือไม่มีสัญญาณรบกวน มีความเร็วสูง และยังคงสามารถใช้โทรศัพท์เพื่อพูดคุยไปได้พร้อม ๆ กับการเล่นอินเตอร์เน็ต
ข้อเสีย คือมีค่าใช้จ่ายสูงกว่าระบบ Dial-Up
3. การเชื่อมต่อแบบ DSL(Digital Subscriber Line)
เป็นเทคโนโลยีการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตความเร็วสูงโดยใช้สายโทรศัพท์ธรรมดา ที่สามารถใช้อินเตอร์เน็ตและพูดผ่านสายโทรศัพท์ปกติได้ในเวลาเดียวกัน สิ่งที่ต้องคำนึงถึงในการติดตั้งระบบอินเตอร์เน็ตแบบ DSL ก็คือ
-ต้องตรวจสอบว่าสถานที่ที่ติดตั้งอยู่ในเขตพื้นที่ให้บริการระบบโทรศัพท์แบบ DSL หรือไม่
-บัญชีผู้ใช้อินเตอร์เน็ตจากผู้ให้บริการอินเตอร์เน็ตในแบบ DSL
-การเชื่อมต่อต้องใช้ DSL Modem ในการเชื่อมต่อ
-ต้องติดตั้ง Ethernet Adapter Card หรือ Lan Card ไว้ที่เครื่องคอมพิวเตอร์ที่ใช้ในการเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ตด้วย
ข้อดี คือมีความเร็วสูงกว่าแบบ Dial-Up และ ISDN
ข้อเสีย คือไม่สามารถระบุความเร็วที่แน่นอนได้
4. การเชื่อมต่อแบบ Cable
เป็นการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตโดยผ่านสายสื่อสารเดียวกับ Cable TV จึงทำให้เราสามารถเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตไปพร้อม ๆ กับการดูทีวีได้ โดยต้องจัดหาอุปกรณ์เพิ่มเติม คือ
-ใช้ Cable Modem เพื่อเชื่อมต่อ
-ต้องติดตั้ง Ethernet Adapter Card หรือ Lan Card ไว้ที่เครื่องคอมพิวเตอร์ที่ใช้ในการเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ตด้วย
ข้อดี คือถ้ามีสายเคเบิลทีวีอยู่แล้ว สามารถเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตได้โดยเพิ่มอุปกรณ์ Cable Modem ก็สามารถเชื่อมต่อได้
ข้อเสีย คือถ้ามีผู้ใช้เคเบิลในบริเวณใกล้เคียงมาก อาจทำให้การรับส่งข้อมูลช้าลง
5. การเชื่อมต่อแบบดาวเทียม (Satellites)
เป็นการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตที่มีค่าใช้จ่ายค่อนข้างสูง ระบบที่ใช้กันอยู่ในปัจจุบันเรียกว่า Direct Broadcast Satellites หรือ DBS โดยผู้ใช้ต้องจัดหาอุปกรณ์เพิ่มเติม คือ
-จานดาวเทียมขนาด 18-21 นิ้ว เพื่อทำหน้าที่เป็นตัวรับสัญญาณจากดาวเทียม
-ใช้ Modem เพื่อเชื่อมต่อระบบอินเตอร์เน็ต
ข้อเสีย ของการเชื่อมต่อแบบดาวเทียม (Satellites) ได้แก่
-ต้องส่งผ่านสายโทรศัพท์เหมือนแบบอื่น ๆ
-ความเร็วในการรับส่งข้อมูลต่ำมากเมื่อเทียบกับแบบอื่น ๆ
-ค่าใช้จ่ายสูง
วันพฤหัสบดีที่ 7 สิงหาคม พ.ศ. 2557
วันพฤหัสบดีที่ 31 กรกฎาคม พ.ศ. 2557
คำศัพท์คอมพิวเตอร์
คำศัพท์ที่เกี่ยวกับคอมพิวเตอร์
1. Computer = คอมพิวเตอร์
2. Software = ชุดคำสั่งหรือโปรแกรม
3. Hardware = อุปกรณ์เชื่อมต่อภายนอก
4. Input unit = หน่วยรับเข้า
5. Output unit = หน่วยส่งออก
6. Main Memory unit = หน่วยความจำหลัก
7. Secondary memory unit = หน่วยความจำรอง
8. Keyboard = แป้นพิมพ์
9. Word = คำหรือคำศัพท์
10. Ram = เก็บข้อมูลและโปรแกรม
11. Online = การติดต่อ
12. Upload = การโหลดข้อมูล
13. Network = เครือข่าย
14. Fax modem = โมเด็มที่ส่งแฟกซ์ได้
15. Web Site = หน้าต่างของเน็ต
16. Antivirus Program = โปรแกรมป้องกันไวรัส
17. Computer System = ระบบคอมพิวเตอร์
18. Information System = ระบบขอมูล
19. Computer Network = ระบบเครือข่าย
20. User = ผู้ใช้
21. Account = บัญชีผู้ใช้
22. USB = หน่วยเก็บข้อมูล
23. .net = แสดงเว็บของบริษัท
24. Keyword = รหัสของบางโปรแกรม
25. Multimedia = สื่อประสม
26. Bus = การเชื่อมต่อเครือข่าย
27. Browser = เป็นชื่อใช้เรียกซอฟต์แวร์
28. Bug = ความผิดพลาดของคอม
29. Database = ฐานข้อมูล
30. CD-ROM = ตัวจัดการกับแผ่นต่างๆ
31. Compact Disc = อุปกรณ์ประเภทแผ่น
32. Mouse = เมาส์
33. Light pen = ปากกาแสง
34. Track ball = ลูกกลมควบคุม
35. Joystick = ก้านควบคุม
36. Scanner = เครื่องกราดตรวจ
37. Touch screen = จอสัมผัส
38. Control Unit = หน่วยควบคุม
39. Rom = หน่วยความจำแบบอ่าน
40. Diskette = แผ่นบันทึก
41. Harddisk = ฮาร์ดดิสก์
42. Magnetic Tape = เทปแม่เหล็ก
43. Monitor = จอภาพ
44. Printer = เครื่องพิมพ์
45. Laser printer = เครื่องพิมพ์เลเซอร์
46. Line printer = เครื่องพิมพ์รายบรรทัด
47. Speaker = ลำโพง
48. Microsoft Word = โปรแกรมเวิร์ด
49. Microsoft Excel = โปรแกรมเอกเซล
50. Microsoft PowerPoint = โปรแกรมเพาเวอร์พอยนต์
วันพฤหัสบดีที่ 17 กรกฎาคม พ.ศ. 2557
อุปกรณ์เทคโนโลยีสมัยใหม่
GPS ติดรถ บอกพิกัดรถ
GPS คืออะไร
GPS หรือ ชื่อเต็มๆว่า Global Positioning System เป็นระบบที่ใช้ในการบอกตำแหน่งของสิ่งต่างๆบนโลกนี้ โดยระบบ GPS จะใช้เทคโนโลยีของดาวเทียมที่จะเป็นเครื่องมือในการพิจารณาหาจุดพิกัดบนโลกนี้ โดยใช้พิกัดตัวเลขของละติจูดและลองติจูด ทำให้เราทราบถึงตำแหน่งที่แท้จริงของสิ่งนั้นๆ โดยอุปกรณ์ GPS Receiver หรือเครื่องรับสัญญาณดาวเทียมนั้น จะทำงานโดยการใช้ดาวเทียมที่ลอยอยู่เหนือพื้นโลกตั้งแต่สามดวงขึ้นไปในเวลาเดียวกัน เพื่อที่จะได้ระบุพิกัดตำแหน่งของสิ่งต่างๆ และจะแม่นยำยิ่งขึ้นหากมีจำนวนดาวเทียมมากขึ้น สำหรับระบบ GPS นั้น ได้ถูกเริ่มใช้และพัฒนาขึ้นโดยกองทัพของประเทศสหรัฐอเมริกา ซึ่งจะใช้ในการหาพิกัดจุดต่างๆบนโลกในการสู้รบทำสงครามกัน แต่ในปัจจุบันได้กลายมาเป็นการใช้งานทั่วๆไป
GPS หรือ ชื่อเต็มๆว่า Global Positioning System เป็นระบบที่ใช้ในการบอกตำแหน่งของสิ่งต่างๆบนโลกนี้ โดยระบบ GPS จะใช้เทคโนโลยีของดาวเทียมที่จะเป็นเครื่องมือในการพิจารณาหาจุดพิกัดบนโลกนี้ โดยใช้พิกัดตัวเลขของละติจูดและลองติจูด ทำให้เราทราบถึงตำแหน่งที่แท้จริงของสิ่งนั้นๆ โดยอุปกรณ์ GPS Receiver หรือเครื่องรับสัญญาณดาวเทียมนั้น จะทำงานโดยการใช้ดาวเทียมที่ลอยอยู่เหนือพื้นโลกตั้งแต่สามดวงขึ้นไปในเวลาเดียวกัน เพื่อที่จะได้ระบุพิกัดตำแหน่งของสิ่งต่างๆ และจะแม่นยำยิ่งขึ้นหากมีจำนวนดาวเทียมมากขึ้น สำหรับระบบ GPS นั้น ได้ถูกเริ่มใช้และพัฒนาขึ้นโดยกองทัพของประเทศสหรัฐอเมริกา ซึ่งจะใช้ในการหาพิกัดจุดต่างๆบนโลกในการสู้รบทำสงครามกัน แต่ในปัจจุบันได้กลายมาเป็นการใช้งานทั่วๆไป
ระบบ GPS ที่มีการใช้งานอยู่ในปัจจุบัน
ระบบ GPS ที่ภาคเอกชนมีการใช้งานในปัจจุบันสำหรับการขนส่งสินค้านั้น ส่วนใหญ่จะถูกใช้ในการพัฒนาประสิทธิภาพในการดำเนินงาน และการกำกับดูแลรถขนส่งสินค้า ระบบ GPS ที่มีการใช้งานในภาคเอกชนในปัจจุบันจะมีผู้ที่มีความเกี่ยวข้อง 2 ส่วน คือ ส่วนผู้ให้บริการ และส่วนผู้ใช้บริการ โดยผู้ให้บริการจะดำเนินการเกี่ยวกับระบบ GPS ทั้งหมดไม่ว่าจะเป็นการติดตั้ง Hardware และ Software รวมทั้งการบำรุงรักษาระบบทั้งหมด ส่วนผู้ใช้บริการจะใช้บริการผ่านช่องทางที่ผู้ให้บริการจัดไว้ให้ที่โดยส่วนมากจะผ่านทางเว็บไซต์
ระบบ GPS ที่ภาคเอกชนมีการใช้งานในปัจจุบันสำหรับการขนส่งสินค้านั้น ส่วนใหญ่จะถูกใช้ในการพัฒนาประสิทธิภาพในการดำเนินงาน และการกำกับดูแลรถขนส่งสินค้า ระบบ GPS ที่มีการใช้งานในภาคเอกชนในปัจจุบันจะมีผู้ที่มีความเกี่ยวข้อง 2 ส่วน คือ ส่วนผู้ให้บริการ และส่วนผู้ใช้บริการ โดยผู้ให้บริการจะดำเนินการเกี่ยวกับระบบ GPS ทั้งหมดไม่ว่าจะเป็นการติดตั้ง Hardware และ Software รวมทั้งการบำรุงรักษาระบบทั้งหมด ส่วนผู้ใช้บริการจะใช้บริการผ่านช่องทางที่ผู้ให้บริการจัดไว้ให้ที่โดยส่วนมากจะผ่านทางเว็บไซต์
การทำงานของระบบ
ระบบจะทำงานโดยเริ่มด้วยดาวเทียมจะค้นหาความเคลื่อนไหว ตำแหน่งและข้อมูลพิกัดต่างๆ ของรถผ่านชุดอุปกรณ์ GPS จากนั้นชุดอุปกรณ์ GPS จะส่งสัญญาณไปยังโครงข่ายสัญญาณโทรศัพท์ไร้สายตามระบบโทรคมนาคม และสัญญาณนี้ถูกแปลงและส่งข้อมูลผ่านระบบ Internet ไปยังส่วนควบคุมของบริษัทผู้ให้บริการ จากนั้นจะส่งข้อมูลผ่านระบบ Internet ไปยังเครื่องแม่ข่ายของลูกค้า (Customer Server) เพื่อเก็บข้อมูลที่จำเป็นในการวิเคราะห์บางส่วน โดยลูกค้าสามารถเข้าไปติดตามสถานะของการขนส่งของตนเองได้โดยผ่าน Internet ด้วยการล็อกอิน (Login) เข้าสู่เว็บไซต์ของผู้ให้บริการ GPS โดยตรงทั้งจากเครื่องคอมพิวเตอร์ หรือโทรศัพท์มือถือ เป็นต้น
ระบบจะทำงานโดยเริ่มด้วยดาวเทียมจะค้นหาความเคลื่อนไหว ตำแหน่งและข้อมูลพิกัดต่างๆ ของรถผ่านชุดอุปกรณ์ GPS จากนั้นชุดอุปกรณ์ GPS จะส่งสัญญาณไปยังโครงข่ายสัญญาณโทรศัพท์ไร้สายตามระบบโทรคมนาคม และสัญญาณนี้ถูกแปลงและส่งข้อมูลผ่านระบบ Internet ไปยังส่วนควบคุมของบริษัทผู้ให้บริการ จากนั้นจะส่งข้อมูลผ่านระบบ Internet ไปยังเครื่องแม่ข่ายของลูกค้า (Customer Server) เพื่อเก็บข้อมูลที่จำเป็นในการวิเคราะห์บางส่วน โดยลูกค้าสามารถเข้าไปติดตามสถานะของการขนส่งของตนเองได้โดยผ่าน Internet ด้วยการล็อกอิน (Login) เข้าสู่เว็บไซต์ของผู้ให้บริการ GPS โดยตรงทั้งจากเครื่องคอมพิวเตอร์ หรือโทรศัพท์มือถือ เป็นต้น
ข้อดีของระบบ GPS
- รู้ทุกเส้นทางที่รถไปมา รวมถึง วัน เวลา ความเร็ว ทิศทาง ระยะทางทั้งหมด
- ใช้ได้ทั้งการคมนาคมทั้งทางบก ทางน้ำ หรือในอวกาศ
- ประหยัดรายจ่ายและค่าน้ำมัน เพิ่มเที่ยวขนส่งงานโดยไม่เพิ่มจำนวนรถ
- ไม่มีค่าใช่จ่ายรายเดือน
- ไม่มีค่าใช้จ่ายอื่นๆอีกเลย ในการใช้งาน และสามารถบันทึกข้อมูลได้สูงสุดถึง
13,000 ครั้งต่อวัน (ซึ่งระบบ Real-Time ทำไม่ได้) - เป็นเครื่องมือช่วยในการตัดสินใจได้ดี ประโยชน์ที่ได้รับจากระบบติดตามยานข้อเสียของระบบ GPS
- เครื่องรับสัญญาณบางประเภทราคาแพง
- รางถ่านบางประเภทอาจมีปัญหา ถ้านำไปขี่จักรยานอาจจะดับได้ง่ายๆ แต่
สามารถแก้ไขได้โดยการโมรางถ่านนิดหน่อย - อาจเกิดปัญหาที่เกิดจากดาวเทียม (Check error, Ephemeris error) อาจเกิดจากวง
โคจรคลาดเคลื่อน เนื่องจากแรงโน้มถ่วงของดวงจันทร์และดวงอาทิตย์หรือ
อาจจะเกิดจากความคลาดเคลื่อนของนาฬิกาเพียงเล็กน้อยจะทำให้การคำนวณ
ระยะทางผิดพลาด ได้มากเนื่องจากดาวเทียมอยู่สูงมาก - การต่อเชื่อมกับอุปกรณ์อื่นและความสะดวกบางเครื่องแสดงได้เฉพาะพิกัด
ภูมิศาสตร์ บางเครื่องไม่สามารถต่อเข้ากับเครื่องมืออื่นหรือคอมพิวเตอร์ขนาด
เล็ก (PC) ได้ และข้อใหญ่ที่ต้องพิจารณา ความแข็งแรงทนทานถ้าต้องใช้เครื่อง
ทำงานในพื้นที่ทะเล หรือในพื้นที่ป่าเขา การใช้ไฟและความร้อนที่เกิดขึ้นเป็น
ตัวชี้สำคัญที่จะต้องเอาใจใส่
ประโยชน์ของ GPS
GPS เป็นเทคโนโลยีที่น่าสนใจและใกล้ตัวเราอย่างมาก และด้วยความสามารถของ GPS ทำให้ สามารถนำข้อมูลตำแหน่ง มาใช้ประโยชน์ได้หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็น
– ระบบนำร่อง (Navigation System)
– ระบบติดตามยานพาหนะ (Automatic Vehicle Location)
– การสำรวจพื้นที่ (Survey)
– การทำแผนที่ (Mapping) เป็นต้น
Application เพื่อการศึกษา
ESL Daily English แอปดีๆ สำหรับฝึกฟังและพูดภาษาอังกฤษ
ที่มาและความสำคัญ
สำหรับคนรุ่นใหม่ที่ใช้มือถือสมาร์ทโฟนกันอย่างแพร่หลาย วันนี้เรามีแอปพลิเคชั่นดีๆ สำหรับการฝึกฟังและพูดภาษาอังกฤษในชีวิตประจำวันมาแนะนำกันค่ะ นั่นก็คือ ESL Daily English ซึ่งเราสามารถเข้าไปดาวน์โหลดแอบนี้กันได้ที่ google play (ตลาดของแอนดรอยด์) ตลาดของ iphone รวมทั้ง Tablet และ ipad ก็โหลดมาใช้ได้เช่นกันค่ะ อย่ารอช้ากันอยู่เลยรีบติดตั้งแอพนี้กันดีกว่า
เมื่อติดตั้งแอปเสร็จเรียบร้อย และเปิดใช้งานครั้งแรกจะทำการดึงข้อมูลเนื้อหามาให้โดยเริ่มต้นจากเนื้อหาล่าสุดก่อน และถ้าอยากจะฟังเสียงประกอบก็ต้องคลิกปุ่ม download เพื่อโหลดไฟล์เสียงมาเก็บไว้ในเครื่องของเรา แล้วจึงจะสามารถกดปุ่ม play เพื่อเริ่มต้นฟังเสียงได้ หน้าตาจะเป็นดังที่เห็นในภาพ วันพฤหัสบดีที่ 19 มิถุนายน พ.ศ. 2557
วันพฤหัสบดีที่ 12 มิถุนายน พ.ศ. 2557
วันพฤหัสบดีที่ 5 มิถุนายน พ.ศ. 2557
ประเภทของระบบสาระสนเทศเพื่อสนับสนุนการตัดสินใจ
1.การตัดสินใจแบบโครงสร้าง(Structure)
เมื่อมีการกำหนดโปรแกรมการตัดสินใจ องค์กรจะต้องเตรียมกฎเกณฑ์การตัดสินใจไว้ โดยแสดงขั้นตอนที่ต้องปฏิบัติ ซึ่งอาจเป็นการตัดสินใจ (flow chart) ตารางการตัดสินใจหรือสูตรต่างๆ ขั้นตอนการตัดสินใจต้องระบุถึงสารสนเทศที่ต้องการ ก่อนที่จะนำไปประยุกต์ใช้กับกฎเกณฑ์การตัดสินใจแบบมีโครงสร้างนั้น จำเป็นต้องมีระบบสารสนเทศอย่างเด่นชัดและมีการนำข้อมูลเข้าที่เป็นไปตามขั้นตอนอย่างแน่นอน มีขั้นตอนการตรวจสอบจนเป็นที่แน่ใจได้ว่าถูกต้อง ทั้งความสมบูรณ์ของ การนำข้อมูลเข้าและการประมวลผล โดยใช้หลักการตัดสินใจทางตรรก (logic) และผลลัพธ์ที่ได้จากการตัดสินใจแบบนี้ จะอยู่ในรูปแบบที่เป็นประโยชน์ต่อการใช้งาน คือ จะต้องเด่นชัดในแง่ที่ว่า จะนำไปใช้ประโยชน์ได้อย่างไรและควรมีข้อมูลอย่างเพียงพอที่จะช่วยให้ผู้รับสามารถนำไปใช้เพื่อการตัดสินใจ จากหลายๆ กรณีที่ไม่อาจจะกำหนดขั้นตอนหรือกฎเกณฑ์การตัดสินใจเพื่อประยุกต์ใช้กับสถานการณ์ธรรมดาทั่วๆ ไป ให้ได้มากที่สุดสำหรับสถานการณ์ที่แตกต่างออกไป และไม่สามารถที่จะนำมาประยุกต์ใช้ได้ เราจะใช้คนเป็นผู้ตัดสินใจ ซึ่งจำเป็นต้องอาศัยความรู้ความสามารถเฉพาะด้าน
2.การตัดสินใจแบบไม่เป็นโครงสร้าง(Unstructure)
การตัดสินใจแบบไม่มีโครงสร้าง ย่อมไม่สามารถกำหนดขั้นตอนการตัดสินใจไว้ก่อนล่วงหน้า อาจเนื่องมาจากการเปลี่ยนแปลงที่มีอยู่บ่อยครั้ง ทำให้องค์กรต้องเสียค่าใช้จ่ายใน การเตรียมขั้นตอน การตัดสินใจหรือความไม่เข้าใจวิธีการประมวลดีพอหรือมีการเปลี่ยนแปลงบ่อยครั้ง จนไม่สามารถจะกำหนดขั้นตอนการตัดสินใจที่เป็นถาวรได้ สิ่งสนับสนุนการตัดสินใจโครงสร้างแบบนี้ ได้แก่ การประมวลผลข้อมูล การวิเคราะห์ข้อมูลต่างๆ และขั้นตอนการตัดสินใจที่จะประยุกต์เพื่อหาคำตอบจากปัญหา ข้อมูลที่ต้องการอาจจะจัดหามาก่อนล่วงหน้า ดังนั้นการดึงข้อมูลอาจเกิดตามการร้องขอระบบสารสนเทศที่สนับสนุนการตัดสินใจแบบไม่มีโครงสร้างจะใช้วิธีการถาม – ตอบและการวิเคราะห์
ความแตกต่างของระบบ EIS และ ระบบ GDSS
ระบบของ GDSS จะเน้นออกแบบไปในทางที่ประชากรเป็นกลุ่มๆ ทางด้านความสามารถนั้นจะต้องหาบุคลากรที่มีความชำนาญในด้านนี้พอสมควร ในด้านข้อมูลถือว่ามีความละเอียดสูงโดยจะได้รับความคิดเห็นได้หลากหลาย แล้วนำข้อเสนอหรือความคิดเห็นมาปรับปรุงแก้ไขได้
ส่วนของระบบ EIS จะเน้นไปในทางของผู้บริหารเพียงอย่างเดียว ข้อมูลที่ได้มีความรวดเร็วเป็นสถานการณ์ปัจจุบัน โดย จะสามารถวิเคราะห์แนวโน้มในภายภาคหน้าได้ ซึ่งเป็นระบบสำคัญให้กับองค์กรหรือบริษัทของผู้บริหารเป็นอย่างดี เป็นตัวช่วยในหารตัดสินใจที่ดี

https://sites.google.com/site/41115jirayus/kar
http://thanasite.blogspot.com/2013/06/eis-gdss.html
ตัวอย่างการใช้งาน DSS
การประยุกต์ใช้ระบบ DSS
ตัวอย่างที่ 1. ระบบสนับสนุนการตัดสินใจกับกลยุทธ์ในการแข่งขัน
บริษัทไฟร์สโตน (Firestone Rubber & Tire) ในรัฐโอไฮโอ สหรัฐอเมริกา ได้พัฒนาระบบสนับสนุนการตัดสินใจในการออกแบบยางรถยนต์ยี่ห้อใหม่ ระบบช่วยให้นักวิเคราะห์มองเห็นถึงความสัมพันธ์ระหว่างผลทางด้านการเงินในอดีตกับตัวแปรภายนอก เช่น จำนวนรถยนต์ที่ผลิตทั้งหมด ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศแล้วนำมาสร้างโมเดลในการพยากรณ์ขาย
ด้วยโมเดลต่างๆ ที่มีอยู่ในระบบ ช่วยให้นักวิเคราะห์ของบริษัทไฟร์สโตน สามารถสร้างฐานข้อมูลที่บรรจุยางของคู่แข่งทั้งหมด 200 ยี่ห้อ รวมทั้งข้อมูลในการผลฺต แรงกด และปริมาณการขาย ซึ่งผู้บริหารสามารถใช้ข้อมูลในฐานข้อมูลนี้สำหรับการกำหนดกลยุทธ์ในการแข่งขัน ระบบช่วยให้องค์การสามารถนำเอาประเด็นด้านเทคโนโลยีมาผนวกกับด้านการเงินในการตัดสินใจที่เกี่ยวกับผลิตภัณฑ์และช่วยสนับสนุนให้มีการตัดสินใจร่วมกันของหน่วยงานตามหน้าที่ต่างๆ ในองค์การ
คำถาม
1. ผู้ใช้ระบบคือใคร
ตอบ นักวิเคราะห์ และผู้บริหารของบริษัทไฟร์สโตน
2. ท่านคิดว่าตัวแปรใดบ้างที่ควรอยู่ในโมเดลพยากรณ์การขาย
ตอบ มีอยู่ 2 ตัวแปรด้วยกัน คือ ตัวแปรภายนอก ได้แก่ จำนวนรถยนต์ที่ผลิตทั้งหมด ผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ ข้อมูลคู่แข่งขัน อัตราดอกเบี้ย จำนวนผู้บริโภค ราคา วัตถุดิบ เป็นต้น และตัวแปรภายใน ได้แก่ ข้อมูลในการผลิต การขาย ข้อมูลการเงิน และประมาณการขาย เป็นต้น
ตัวอย่างที่ 2: ระบบสนับสนุนการตัดสินใจกับการบริหารการจัดส่งสินค้า
บริษัทซาน ไมเกล (San Miguel Corporation) ใช้ระบบสนับสนุนการตัดสินใจในการบริหารการส่งสินค้า (Production Load Allocation) เพื่อส่งสินค้ากว่า 300 ชนิด เช่น นม เบียร์ และอื่นๆ โดยส่งไปทั่วหมู่เกาะฟิลิปปินส์ ระบบดังกล่าวช่วยคำนวณความสมดุลระหว่างค่านำส่ง ค่าใช้จ่ายในการจัดซื้อ กับความถี่ในการนำส่งและปริมาณต่ำสุดในการส่งสินค้า รวมถึงการกำหนดจำนวนสินค้าแต่ละชนิดที่จะผลิตและการนำสินค้านั้นไปเก็บไว้ในคลังสินค้าต่างๆ ระบบนี้ช่วยให้บริษัทกำหนดแผนการผลิตที่เหมาะสมและสามารถประหยัดค่าใช้จ่ายในการเก็บสินค้าไว้ในคลังได้ถึง 180000 เหรียญสหรัฐต่อปี
คำถาม
1. จากตัวอย่างข้างต้นไม่มีการกล่าวถึงการใช้โมเดล ท่านคิดว่าระบบบริหารการส่งสินค้า
น่าจะจัดเป็นระบบสนับสนุนการตัดสินใจหรือไม่
ตอบ เป็นระบบสนับสนุนการตัดสินใจ เพราะระบบที่บริษัทซาน ไมเกล ใช้อยู่เป็นระบบที่ใช้การคำนวณความสมดุลต่างๆ รวมถึงการกำหนดจำนวนสินค้าที่จะผลิต และช่วยให้บริษัทกำหนดแผนการผลิตที่เหมาะสม
2. ข้อมูลใดที่ควรต้องนำมาประกอบการตัดสินใจว่าจะส่งสินค้าแต่ละชนิดไปเก็บไว้ที่คลังสินค้าต่างๆ เมื่อใด และจำนวนเท่าไร
ตอบ ระบบสามารถกำหนดจำนวนสินค้าแต่ละชนิดที่จะผลิตและการนำสินค้านั้นไปเก็บไว้ในคลังสินค้าต่างๆ ช่วยให้บริษัทกำหนดแผนการผลิตที่เหมาะสมและสามารถประหยัดค่าใช้จ่ายในการเก็บสินค้าไว้ในคลังได้ถึง 180000 เหรียญสหรัฐต่อปี
บริษัทไฟร์สโตน (Firestone Rubber & Tire) ในรัฐโอไฮโอ สหรัฐอเมริกา ได้พัฒนาระบบสนับสนุนการตัดสินใจในการออกแบบยางรถยนต์ยี่ห้อใหม่ ระบบช่วยให้นักวิเคราะห์มองเห็นถึงความสัมพันธ์ระหว่างผลทางด้านการเงินในอดีตกับตัวแปรภายนอก เช่น จำนวนรถยนต์ที่ผลิตทั้งหมด ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศแล้วนำมาสร้างโมเดลในการพยากรณ์ขาย
ด้วยโมเดลต่างๆ ที่มีอยู่ในระบบ ช่วยให้นักวิเคราะห์ของบริษัทไฟร์สโตน สามารถสร้างฐานข้อมูลที่บรรจุยางของคู่แข่งทั้งหมด 200 ยี่ห้อ รวมทั้งข้อมูลในการผลฺต แรงกด และปริมาณการขาย ซึ่งผู้บริหารสามารถใช้ข้อมูลในฐานข้อมูลนี้สำหรับการกำหนดกลยุทธ์ในการแข่งขัน ระบบช่วยให้องค์การสามารถนำเอาประเด็นด้านเทคโนโลยีมาผนวกกับด้านการเงินในการตัดสินใจที่เกี่ยวกับผลิตภัณฑ์และช่วยสนับสนุนให้มีการตัดสินใจร่วมกันของหน่วยงานตามหน้าที่ต่างๆ ในองค์การ
คำถาม
1. ผู้ใช้ระบบคือใคร
ตอบ นักวิเคราะห์ และผู้บริหารของบริษัทไฟร์สโตน
2. ท่านคิดว่าตัวแปรใดบ้างที่ควรอยู่ในโมเดลพยากรณ์การขาย
ตอบ มีอยู่ 2 ตัวแปรด้วยกัน คือ ตัวแปรภายนอก ได้แก่ จำนวนรถยนต์ที่ผลิตทั้งหมด ผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ ข้อมูลคู่แข่งขัน อัตราดอกเบี้ย จำนวนผู้บริโภค ราคา วัตถุดิบ เป็นต้น และตัวแปรภายใน ได้แก่ ข้อมูลในการผลิต การขาย ข้อมูลการเงิน และประมาณการขาย เป็นต้น
ตัวอย่างที่ 2: ระบบสนับสนุนการตัดสินใจกับการบริหารการจัดส่งสินค้า
บริษัทซาน ไมเกล (San Miguel Corporation) ใช้ระบบสนับสนุนการตัดสินใจในการบริหารการส่งสินค้า (Production Load Allocation) เพื่อส่งสินค้ากว่า 300 ชนิด เช่น นม เบียร์ และอื่นๆ โดยส่งไปทั่วหมู่เกาะฟิลิปปินส์ ระบบดังกล่าวช่วยคำนวณความสมดุลระหว่างค่านำส่ง ค่าใช้จ่ายในการจัดซื้อ กับความถี่ในการนำส่งและปริมาณต่ำสุดในการส่งสินค้า รวมถึงการกำหนดจำนวนสินค้าแต่ละชนิดที่จะผลิตและการนำสินค้านั้นไปเก็บไว้ในคลังสินค้าต่างๆ ระบบนี้ช่วยให้บริษัทกำหนดแผนการผลิตที่เหมาะสมและสามารถประหยัดค่าใช้จ่ายในการเก็บสินค้าไว้ในคลังได้ถึง 180000 เหรียญสหรัฐต่อปี
คำถาม
1. จากตัวอย่างข้างต้นไม่มีการกล่าวถึงการใช้โมเดล ท่านคิดว่าระบบบริหารการส่งสินค้า
น่าจะจัดเป็นระบบสนับสนุนการตัดสินใจหรือไม่
ตอบ เป็นระบบสนับสนุนการตัดสินใจ เพราะระบบที่บริษัทซาน ไมเกล ใช้อยู่เป็นระบบที่ใช้การคำนวณความสมดุลต่างๆ รวมถึงการกำหนดจำนวนสินค้าที่จะผลิต และช่วยให้บริษัทกำหนดแผนการผลิตที่เหมาะสม
2. ข้อมูลใดที่ควรต้องนำมาประกอบการตัดสินใจว่าจะส่งสินค้าแต่ละชนิดไปเก็บไว้ที่คลังสินค้าต่างๆ เมื่อใด และจำนวนเท่าไร
ตอบ ระบบสามารถกำหนดจำนวนสินค้าแต่ละชนิดที่จะผลิตและการนำสินค้านั้นไปเก็บไว้ในคลังสินค้าต่างๆ ช่วยให้บริษัทกำหนดแผนการผลิตที่เหมาะสมและสามารถประหยัดค่าใช้จ่ายในการเก็บสินค้าไว้ในคลังได้ถึง 180000 เหรียญสหรัฐต่อปี
http://katib10.blogspot.com/2008/01/dss.html
สมัครสมาชิก:
บทความ (Atom)